FINAL PROJECT { Artist in Residence at koh kret }

หรือจะเรียกโปรแกรมนี้ว่า

       ศิลป์พำนัก รักษ์เกาะเกร็ด พื้นที่สนับสนุนการพำนักในระยะสั้น (3-6 เดือน) เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมของศิลปิน นักสร้างสรรค์และนักวิชาการในด้านต่างๆเช่น วิจิตรศิลป์ สถาปัตยกรรม การแสดง ฯลฯ ด้วยขนาดพื้นที่โครงการกว่า 150 ตารางวา บนเกาะเกร็ดเปิดเป็นพื้นที่ปฎิสัมพันธ์สำหรับศิลปิน ศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์และชุมชน ที่ ส่งเสริมให้ศิลปินผู้มาพำนักสามารถศึกษา ค้นคว้า ทดลองแนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเองหรือสามารถพบปะแลกเปลี่ยนแนว คิดกับผู้คนและชุมชนโดยรอบ บน "เกาะเกร็ด" แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ เครื่องปั้นดินเผาและประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิมที่ยังคงอนุรักษ์ ไว้ได้เป็นอย่างดี

 
     โครงการ  "ศิลป์พำนัก รักษ์เกาะเกร็ด" สามารถรองรับศิลปินได้คราวละ 1 ท่าน(หรือ 2 ท่าน กรณีศิลปินมาพำนักเป็นคู่เท่าันั้น) ระยะเวลาในการพำนักระหว่าง 3-6 เดือน สิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการต้องจัดเตรียมไว้คือ ห้องนอน 1 ห้องพร้อมห้องน้ำ ห้องครัว  สตูดิโอทำงานส่วนตัวของศิลปินและส่วนจัดแสดงผลงานขนาดเล็ก โดยศิลปินเป็นผู้ดูแลพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ที่ทำงานด้วยตัวเอง

   "ศิลป์พำนัก รักษ์เกาะเกร็ด" ได้รับการสนับสนุนและดำเนินการโดยครอบครัว "นักรักษ์" ของคุณลุงหมาก (ข้าราชการบำนาญภาคพืชศาสตร์)  ป้าทับทิม  (ปรมาจารย์ด้านการทำขนมไทยแห่งเกาะเกร็ด) และคุณปูรณ์ บุตรชาย ผู้เป็นเจ้าของกิจการเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งชื่นชอบผลงานศิลปะและสนับสนุนการทำงานของศิลปินเรื่อยมา



FINAL PROJECT

วัตถุประสงค์
- เืพื่อให้ฝึกทักษะการออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์สำหรับที่พักอาศัยขนาดเล็ก
                       ที่เหมาะสมกับประเภทและพฤติกรรมของผู้ใช้อาคาร มีความสอดคล้องกับสภาพ
                        แวดล้อมที่ตั้งโครงการ

ขั้นตอนการทำงาน
     -  วิเคราะห์ข้อมูล พฤติกรรมของผู้ใช้สอยอาคาร เพื่อกำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอย และคุณลักษณของที่ว่างทางสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ที่เหมาะสม
     - สำรวจและวิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ ความสัมพันธ์กับบริบทสิ่งแวดล้อมโดยรอบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลและเกณฑ์ในการออกแบบพื้นที่
     -  ออกแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์สำหรับที่พักอาศัยขนาดเล็กที่เหมาะสมกับผู้ ใช้ ที่ตั้งและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่มีความสวยงาม สร้างสรรค์
 

รายละเอียด

ที่ตั้งโครงการ  : ขนาดที่ดินสำหรับสร้างสิ่งปลูกสร้างประมาณ 600 ตารางเมตร(150 ตารางวา )
พื้นที่ใช้สอย   :  ขนาดไม่เกิน 250 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น
"
- พื้นที่ใช้สอยของครอบครัว"นักรักษ์" เช่น
ส่วนนั่งรับแขก                                ประมาณ  15   ตารางเมตร
ส่วนครัว-ทำขนม                             ประมาณ  15   ตารางเมตร
ส่วนรับประทานอาหาร                     ประมาณ  12   ตารางเมตร
ส่วนห้องนอนใหญ่-ห้องน้ำ               ประมาณ  25   ตารางเมตร
ส่วนห้องนอนบุตรชาย                      ประมาณ  20   ตารางเมตร
ส่วนห้องน้ำแขก                              ประมาณ   4    ตารางเมตร
ส่วนห้องพระ                                  ประมาณ   4    ตารางเมตร

-พื้นที่ใช้สอยส่วน " ศิลปินพำนัก" ให้นำเสนอพื้นที่ตามความเหมาะสม

โดยรวบรวมนำเสนอเป็นผลงาน มีองค์ประกอบดังนี้

วิเคราะห์
-วิเคราะห์ผู้ใช้โครงการและพื้นที่ใช้สอย
-วิเคราะห์พื้นที่ตั้งโครงการ
-แนวความคิดในการออกแบบ
-แผนภาพ(Diagram) แสดงการวิเคราะห์ต่างๆ


ผลงานออกแบบ
-ผังบริเวณ(แสดงกรจัดพื้นที่โครงการและบริบทโดยรอบ)
-ผังหลังคา
-ผังพื้นทุกชั้นแสดงเฟอร์นิเจอร์
-รูปด้าน 4 ด้าน
-รูปตัดอย่างน้อย 2 รูป
-ทัศนียภาพภายนอกและภายในอย่างละ 1 ภาพ
-หุ่นจำลอง

วิเคราะห์พื้นที่ตั้งโครงการ

     พื้นที่ เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านทิศเหนือติดกับที่ดินเอกชนซึ่งปัจจุบันเป็นป่่า ด้านทิศใต้ติดกับทางเดินสาธารณะความกว้าง 2 เมตร สูงจากระดับดิน 0.50 เมตร ด้านหน้าที่ดินเป็นบ้านเรือนริมน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา ทางเดินนี้ครอบคลุมไปถึงทางด้านตะวันออกของที่ดิน และเป็นกลุ่มของบ้านเรือนริมน้ำ ส่วนด้านทิศตะวันตกติดกับทางน้ำสาธารณะความกว้าง 9 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ทำการอบต.และสนามฟุตบอลกลางแจ้ง ซึ่งมีสะพานเชื่อม  ทั้งสองฝั่งอยู่ ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่โดยมีน้ำขังและมีน้ำล้อมรอบ โดยโปรแกรมกำหนดให้เมื่อระดับน้ำท่วมสูง น้ำจะท่วมถึงระดับ 1.50 เมตรจากระดับดิน มีการเดินทางจากทางเดินภายในเกาะและเรือที่มาเทียบท่า ตรงที่ทำการอบต.

มุมมองจากชั้น 2 ที่ทำการอบต.

มุมมองจากบนสะพาน ที่ดินอยู่ทางด้านซ้าย

ทางน้ำสาธารณะทางตะวันตก เต็มไปด้วยวัชพืช

ระดับความสูงสะพานเหนือระดับน้ำ

ระดับน้ำ ใต้ทางเดินสาธารณะ ติดกับเขตที่ดิน

สภาพของที่ตั้งโครงการ จากมุมมองบนสะพาน

มุมมองจากด้านทิศตะวันออก

มุมมองจากด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางแม่น้ำ

ร้านค้าริมน้ำ ด้านหน้าโครงการ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการออกแบบ

1.แสงสว่างและแสงแดด
 ฝั่งทางด้านทิศตะวันตกและทางด้านทิศใต้ จะต้องมีแผงกันแดดหรือต้นไม้ในการบังแดดและบังสายตา และทางด้านทิศเหนือ ผมจะเจาะช่องเปิดให้เยอะๆเพื่อรับลมและแสงที่ไม่แรงมาก
2.เสียง
จะมีเสียงจากทางท่าเรือ และจะมีการทำกิจกรรมทางลานอบต.เวลามีเทศกาลต่างๆ
3.ลม.
ลมจะมา2ทิศแล้วแต่ฤดูกาล คือลมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งผมจะเปิดช่องรับลมทาง2ทิศนี้และจะไม่ปลูกต้นไม้หรือมีสิ่งกีดขวางบริเวณนี้
4.ต้นไม้เดิมในที่ดิน
ผมจะปลูกไว้ในบางส่วนที่ยังคงสภาพและไม่ทำลายบ้าน หมายถึงลำต้นของมันไม่ใกล้ตัวบ้านจนเกินไป และใบไม่ร่วงไปขังในรางน้ำฝน เป็นต้น
5.การกัดเซาะของหน้าดิน
ผมได้ทำการยกพื้นบ้านสูงเพื่อหนีน้ำท่วมและหลบหนีจากความชื้นที่มาจากน้ำขึ้น
6.ตำแหน่งที่รับวิวทิวทัศน์ที่ดี
สำหรับศิลปินและครอบครัวนักรักษ์หรือทุกๆคนก็อยากจะให้บ้านของตัวเองมีทิวทัศน์ที่ดีเวลามองออกไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำการวิเคราะห์ว่ามุมไหน ด้านไหน ทิศไหนดีที่สุด
7.การเข้าถึงพื้นที่
เวลาคนนั่งเรือผ่านก็ต้องสังเกตุเห็น หรือคนขี่รถจักรยานผ่านไปผ่านมาก็ต้องสังเกตุเห็นบ้าง


แนวความคิดในการออกแบบ

Concept ของผมคือ "ลอยไปอยู่กับฝัน ทั้งที่ยังตื่น" บ้านหลังนี้มองดูเผินๆก็เหมือนบ้านทั่วๆไป แต่พอเข้าไปในบ้านแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในความฝัน โดยบ้านหลังนี้ทำให้เกิดมุมเชื่อมต่อภายในกับภายนอกเนื่องจากตัวบ้านที่ยกสูง จึงสามารถมองข้ามบ้านอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงได้หมดจึงสามารถมองผ่านไปยังบริเวณท่าเรือได้ และในส่วนของบ้านของนักรักษ์และส่วนของศิลปิน ผมได้แยกตัวบ้านของทั้ง2บ้าน ออกจากกันอย่างชัดเจน แต่มีการเชื่อมต่อกันด้วยเฉลียงขนาดใหญ่บริเวณชั้น2 ซึ่งมีหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างห้องทำงานของศิลปินและห้องทำงานของคุณปูรณ์เข้าด้วยกัน โดยทั้งศิลปินและคุณปูรณ์สามารถมาแชร์ความคิด หรือเรื่องต่างๆได้

วิเคราะห์ผู้ใช้โครงการ

 

1.ลุงหมาก(ข้าราชการบำนาญภาคพืชศาสตร์)

ต้องการพื้นที่ในการปลูกต้นไม้และจัดพวกสวนหรือสมุนไพรต่างๆ

2.ป้าทับทิม(ปรมจารย์ด้านการทำขนมไทยแห่งเกาะเกร็ด)

ต้องการพื้นที่ครัวในการทำขนม และในส่วนครัวนี้ควรมีโต๊ะสำหรับการนั่งเรียนทำขนมด้วยในกรณีที่มีคนต้องการศึกษา

3.คุณปูรณ์(เจ้าของกิจการเครื่องปั้นดินเผา)

ต้องการพื้นที่ในการทำงานเกี่ยวกับกิจการของตัวเอง และมีพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนความคิดกับศิลปิน

4.ศิลปิน นักสร้างสรรค์ หรือนักวิชาการ

ซึ่งศิลปินอาจจะมาพำนักเป็นคู่ หรือมาคนเดียวซึ่งระยะเวลาในการพำนักระหว่าง 3-6 เดือน ศิลปินต้องการพื้นที่ในการทำงานและค้าหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

ผลงานออกแบบ

แปลนหลังคา

แปลนชั้น1

แปลนชั้น2

ภาพตัด A

ภาพตัด B

ภาพด้าน1

ภาพด้าน 2

ภาพด้าน 3

ภาพด้าน 4

หุ่นจำลอง

PROGRAME 2 { SHOP HOUSE }

      SHOP HOUSE โปรแกรมออกแบบโครงการที่เหมาะสมกับผู้ใช้ที่กำหนด และมีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่ตั้งโครงการ โดยทำการวิเคราะห์ข้อมูล สังเคราะห์ และตั้งสมมติฐาน เพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบและจัดองค์ประกอบ ที่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของพื้นที่ว่างภายใน พื้นที่กึ่งภายนอก และพื้นที่ว่างภายนอกอาคาร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมและลำดับการเข้าถึงกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้เพื่อฝึกทักษะการแบ่งเขตพื้นที่ใช้สอย และการจัดความสัมพันธ์ของพื้นที่ใช้สอยโดยใช้แผนภูมิฟองสบู่หรือแผนภูมิแสดง ความสัมพันธ์ของพื้นที่ใช้สอยได้
           สำหรับการวิเคราะห์ ต้องวิเคราะห์ถึง ที่ตั้งโครงการ พฤติกรรมความต้องการ กิจกรรมของผู้ใช้โครงการทั้งผู้อาศัย(ตัวนิสิตและตัวลูกจ้างหรือหุ้นส่วน) และลูกค้าที่เข้ามาใช้พื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อการออกแบบที่พักอาศัยซึ่งใช้ประกอบธุรกิจส่วนตัวของนิสิตในที่ ตั้งโครงการที่ได้กำหนดให้ ทั้งนี้นิสิตกำหนดรูปแบบของธุรกิจที่คิดว่าเหมาะสม โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ผู้ใช้และความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่ ตั้งของโครงการ ธุรกิจดังกล่าวจะต้องใช้ผู้ดำเนินกิจการเพียง 2 คนเท่านั้น กำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวมีพื้นที่ใช้สอยไม่เกิน 120 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่ต่างๆดังนี้
-ห้องนอนสำหรับเจ้าของร้าน 1 ห้อง
-ห้องนอนสำหรับลูกจ้างหรือหุ้นส่วน 1 ห้อง
-ห้องน้ำสำหรับผู้พักอาศัย 1 ห้อง
-ห้องน้ำสำหรับลูกค้า 1 ห้อง
-พื้นที่เตรียมอาหารสำหรับผู้พักอาศัย
-พื้นที่ที่จำเป็นสำหรับประกอบธุรกิจ หรือร้านค้า

ซึ่งการออกแบบดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมอาคาร*

      พื้นที่ว่างส่วนที่เหลือภายในที่ตั้งโครงการสามารถปรับปรุงได้ตามความเหมาะสม เช่น การปรับพื้นที่ การจัดสวนปลูกต้นไม้เพิ่มเติม แต่ทั้งนี้หากพื้นที่ดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการประกอบธุรกิจ จะต้องคิดพื้นที่ส่วนนั้นรวมอยู่ในพื้นที่ใช้สอยด้วย

โดยนำเสนอผลงานออกแบบประกอบด้วย
บทวิเคราะห์ (ผู้ใช้โครงการ ที่ตั้งโครงการ แนวคิดในการออกแบบ และแผนภาพแสดงการวิเคราะห์)
งานออกแบบ
-ผังบริเวณ แสดงการจัดพื้นที่โครงการและบริบทโดยรอบ พร้อมแสดงการวิเคราะห์ที่ตั้งโครงการ
-ผังพื้นทุกชั้น แสดงเฟอร์นิเจอร์และสภาพแวดล้อมภายในโครงการ
-ผังหลังคา
-รูปด้าน 2 ด้าน
-รูปตัดอย่างน้อย 1 ด้าน
-ทัศนียภาพภายนอกและภายในอย่างละ 1 ภาพปล.ใช้เทคนิคการนำเสนอได้ตามความถนัด


ที่ตั้งโครงการ

บรรยากาศรอบพื้นที่ตั้งโครงการ

จากภาพบรรยากาศโดยรอบได้การวิเคราะห์ที่ตั้งโครงการดังนี้.

      พื้นที่ตั้งอยู่ในเขตชุมชน ที่พักอาศัย หอพักและร้านค้า ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือถึงทิศตะวันออกติดกับถนน 2 ช่องทางการเดินรถ ซึ่งเป็นหัวมุมตรงสี่แยกพอดี สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ทางเข้าจากถนนใหญ่ ซึ่งฝั่งตรงข้ามด้านข้างจะเป็นร้านอาหาร และด้านหน้าจะเป็นลานจอดรถและแผงลอย ส่วนด้านทิศตะวันตกถึงทิศใต้ติดกับบ้านพักอาศัย โดยด้านหลังติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ด้านข้างติดกับบ้านพักอาศัยที่เปิดด้านหน้าเป็นร้านอาหารตามสั่ง ส่วนเฉียงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้านหลังเป็นอาคารที่พักอาศัย 4 ชั้น ซึ่งทำให้มีมลภาวะทางเสียงรบกวนได้แทบจะทุกด้าน และมีปัญหาจากกลิ่น-ควันจากการประกอบอาหารและรถที่สัญจรไปมาอีกด้วย

ประเภทของร้านค้าที่เลือกมาประกอบธุรกิจ
     ร้านของผมมีชื่อร้านว่า "Boong Fish Shop" (บุ๋งฟิชช้อป) ที่มามาจากเวลาปลาทองอ้าปากอยู่ใต้น้ำบุ๋งๆและจากชื่อนั่นคือร้านขายพันธุ์สัตว์น้ำและต้นไม้น้ำ เหตุผลเพราะมีความชอบส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว และทางด้านการตลาด แถวนั้นก็มีจำนวนหออยู่ เพราะฉะนั้นสัตว์ที่เด็กหอสามารถเลี้ยงได้ก็น่าจะเป็นปลา แต่กลุ่มเป้าหมายเราไม่ได้อยู่แค่กลุ่มเด็กหอ ผู้ที่รักในสัตว์น้ำและต้นไม้น้ำก็สามารถมาจับจ่ายหาซื้อได้ที่ร้านของเรา ซึ่งในความคิดผม สัตว์น้ำที่อยู่ในตู้ จะดูแลได้ง่ายกว่าสัตว์ที่อยู่ในตู้ประเภทอื่นๆเช่น แมงมุม กิ้งก่า งู เป็นต้น เพราะเวลาจะดูแลก็แค่เอาเครื่องกรองมาล้าง ดูดน้ำเสียออก ใส่น้ำดีเข้าไปแทนที่ แค่นี้ก็สามารถทำความสะอาดตู้ปลาได้แล้ว และในเรื่องของกลิ่น ถ้าหมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ปัญหานี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น ใครที่คิดจะเลี้ยงสนุกๆกฃผมขอบอกว่าได้ แต่คุณต้องมีเวลาให้มันบ้าง ถึงแม้มันจะเลี้ยงง่าย ทำความสะอาดง่าย ก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งๆขว้างๆ เพราะพวกมันก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน.

วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้โครงการ

     ส่วนพักผ่อน  แบ่งเป็น ห้องนอนของเจ้าของ ห้องนอนหุ้นส่วน ห้องอาบน้ำ และห้องครัวขนาดเล็ก
ส่วนร้านค้าจะแบ่งเป็น ส่วนขาย ห้องน้ำแขก และห้องเก็บของ

     โดยพฤติกรรมภายในส่วนพักผ่อนจะใช้ตามมาตรฐานทั่วไป
ส่วนที่เป็นร้านค้า ที่เป็นส่วนขายจะมีตั้งแต่การขาย การทำความสะอาด-เปลี่ยนถ่ายน้ำในตู้ เก็บสินค้าและ บริการให้คำปรึกษาแนะนำ

การออกแบบ


     ผมต้องการแยกส่วนขายของกับส่วนพักผ่อนออกจากกัน โดยผมจะมีลูกจ้างอีกหนึ่งคนในร้านและตัวบ้านผมจะมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นส่วนของการขายของและพอเลยเข้ามาในส่วนที่เป็นส่วนตัว ก็จะเป็นห้องนอนของลูกจ้างเพราะจะได้เฝ้าร้านตอนกลางคืนเผื่อเกิดอะไรขึ้น และถัดไปก็จะเป็นครัวและห้องสต็อก เพราะถ้าห้องสต็อกอยู่ด้านบน เวลาขนส่งตู้ปลาหรืออุปกรณ์ บางทีปริมาณมันเยอะ จะได้ไม่ต้องขึ้นลงบ่อยๆ และพอถัดออกไปในส่วนหลังบ้านจะมีเฉลียงสำหรับผมและลูกจ้างออกไปนั่งเล่นพักผ่อนกายาได้
ในส่วนของชั้นบนจะเป็นส่วนของผมโดยเฉพาะ โดยจะมีห้องนอนและห้องน้ำและเฉลียงนอกห้องนอน และในส่วนของห้องทำงานจะเป็น Double Space สามารถมองลงไปเห็นห้องขายของชั้นล่างได้ เวลามีลูกค้ามา เราจะได้แอบดูได้ว่าลูกจ้างเรานั้น ต้อนรับแขกที่จะมาซื้อของดีแค่ไหน เป็นต้น

แนวความคิดในการออกแบบ

     "ไม่อยากให้คนที่มาซื้อปลา มาเพียงแค่ซื้อปลาแล้วกลับ แต่อยากให้คนเข้ามาแล้ว เหมือนลงไปอยู่ในโลกของปลา หรือเข้าไปในตัวปลา"
  จากคอนเซ็ป ผมจึงได้ทำบ่อน้ำและก้อนหินมารับในส่วนของทางเข้าร้าน เพราะจะได้เป็นเหมือนการเริ่มเข้าสู่ป่าไม้ ก่อนที่จะถึงตัวปลา และรูปร่างของตัวร้าน ผมได้ออกแบบให้มีรูปทรงลักษณะโค้งๆเหมือนตัวปลาโดยเจาะช่องเปิดในบางส่วนด้วย  และพูดถึงความโค้งผมจึงนึกถึงเมทัลชีท ซึ่งเป็นเหล็กแผ่นที่มีความเเข็งแรงสามารถดัดเป็นยังไงก็ได้ ผมจึงเลือกใช้ และต้องศึกษาถึงเรื่องฉนวนกันความร้อน และในเรื่องของเสียงเวลาฝนตก  โดยผมจะต้องฉีดโฟมไปใต้เมทัลชีทเพื่อกันเสียงและใส่ฉนวนกันความร้อนด้วย และ ในส่วนของด้านหน้าของร้าน ผมได้ใช้กระจกแผ่นใหญ่จากพื้นถึงปลายหลังคาซึ่งกระจกก็จะโค้งตามหลังคาด้วย

 

 

หุ่นจำลอง