ส่งโมเดลและแบบร่างครั้งที่ 1
เกิดจากการลดทอนรูปทรงของแมงป่องจากการทำโมเดลใบงานที่ 5.1 และ 5.2 ซึ่งผมได้วิเคราะห์แล้วว่าหางแมงป่องสามารถทำให้มีึความรู้สึกถึงความลื่นไหลมีชีวิตชีวาและเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง จึงได้นำหางแมงป่องมาเรียงติดกันโดยจะตั้งอยู่บริเวณสนามบาสหน้าสโมสรคณะ หางที่สูงที่สุดจะอยู่ทางด้านแป้นบาสแล้ว slope ลงไปทางม้าหินหน้าสโมสรคณะเพื่อที่เวลาฝนตกน้ำฝนก็จะเทจากด้านสูงลงไปสู่ด้านต่ำแล้วลงสู่บริเวณที่ปลูกต้นไม้ข้างที่นั่งม้าหินและนำก้ามของแมงป่องมาเป็นที่นั่ง
โดยอาจารย์ให้คำแนะนำว่า หางแมงป่องที่มีขนาดเท่ากันและซ้อนกันธรรมดาๆมันจะน่าเบื่อ อาจารย์จึงแนะนำว่าหางควรจะมีขนาดที่แตกต่างกัน เล็กบ้างใหญ่บ้าง หรืออาจจะมีปล้องบ้างเป็นบางอัน และก้ามของแมงป่องที่เป็นที่นั่งก็อาจจะมีฝั่งนึงฝังลงไปในดินอีกฝั่งก็โผล่ขึ้นมา ผมจึงได้ไปคิดและไปพัฒนาต่อ. ..
ส่งโมเดลและแบบร่างครั้งที่ 2
เกิดจากหางแมงป่องที่โค้งขึ้นมาและมีขนาดไม่เท่ากันโดยยังมี slope เหมือนเดิม บางอันเล็กบางอันใหญ่ และมีปล้องเป็นบางอันตามที่อาจารย์ได้ให้คำแนะนำจากการส่งครั้งแรก และยังตั้งบริเวณสนามบาสเหมือนเดิม
อาจารย์ได้ให้คำแนะนำว่า ต่อกันแบบซ้ำๆกันมันดูแข็งไป น่าจะให้มีการขยับของหางบ้าง บางอันขึ้นบางอันลง เป็นต้น และหางแมงป่องควรจะเป็นข้อๆจึงน่าจะเปลี่ยนให้หางเป็นข้อปล้องจะดีกว่า ผมจึงต้องนำไปคิดและพัฒนาต่ออีกเหมือนเคย. ..
ส่งโมเดลและแบบร่างตัวจริง
พัฒนาจากการส่งครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จนได้โมเดลตัวจริงชิ้นนี้ออกมา โดยเกิดจากหางที่เป็นปล้องขนาดที่ไม่เท่ากันของหาง โดยสามเหลี่ยมอันที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ที่พื้น และอันถัดจากอันใหญ่นี้ด้านที่ประกบจะเป็นครึ่งนึงของอันใหญ่และจะเป็นเช่นนี้ทุกๆอัน และเก้าอี้ที่นั่งยังคงจะมีลักษณะเหมือนฝังอยู่ในดินเหมือนเดิม
โดยอาจารย์ได้ให้คำแนะนำว่า ได้ชอบส่วนที่เป็นปล้องแต่ละปล้องที่ด้านจะลดลงครึ่งนึงไปเรื่อยๆ แต่ส่วนที่ไม่ชอบก็คือบริเวณก้ามของแมงป่องไม่ได้สอดคล้องกับรูปแบบของหาง ซึ่งอาจารย์ยังได้แนะนำต่อไปว่าถ้าจะนำไปพัฒนาต่อก็ควรจะมีหางสักอันหนึ่งเป็นอย่างน้อยให้มีความเรียบ คือไม่เป็นปล้อง ก็จะทำให้ก้ามที่ดูไม่สอดคล้องดูสอดคล้องได้แล้ว. ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น